
ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์อะไรก็เกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีธรรมชาติหลากหลาย หนึ่งในเสน่ห์ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติประทับใจ คือ ภูเขาในไทย มีความสวยงามน่าเที่ยวเป็นอย่างมาก มีภูเขาสวย ๆ กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นยอดดอยสูงตระหง่านทางภาคเหนือ รายล้อมด้วยทะเลหมอกยามเช้า หรือภูเขาในภาคกลางและภาคใต้เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มและอากาศสดชื่น ทำให้ผู้คนอยากออกเดินทางไปพักผ่อน เติมพลังใจท่ามกลางธรรมชาติ
นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนยอดเขายังเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำ และพลาดไม่ได้กับการเก็บภาพสวย ๆ ไว้อัปเดตลงโซเชียลหรือเก็บไว้เป็นที่ระลึกในแต่ละทริป ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว เพื่อน หรือคนพิเศษ การเดินทางขึ้นภูเขาในไทยจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติและอยากสัมผัสไอหมอกในยามเช้าในช่วงหน้าหนาว
15 ที่เที่ยวชมวิวภูเขาสวย ๆ ในไทย ถ่ายรูปสวย เที่ยวได้ทั้งปี
ปักหมุด 15 ที่เที่ยวบนเขา สามารถถ่ายรูปภูเขาสวย ๆ ในประเทศไทย ได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็เที่ยวได้ ชมวิวที่สวยงานในยามเช้า สูดอากาศสดชื่นท่ามกลางเมฆหมอก และเก็บภาพประทับใจครบทุกมุม เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนและชื่นชมธรรมชาติไปพร้อมกัน
1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ดอยอินทนนท์ คือ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมของพืชพรรณและดอกไม้เมืองหนาวที่งดงามและเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศอันน่าทึ่งได้ตั้งแต่ยามเช้าตรู่ที่สายหมอกปกคลุมทั่วหุบเขา หรือจะเดินชมดอกไม้นานาพันธุ์ เช่น ดอกนางพญาเสือโคร่ง (หรือที่รู้จักกันในชื่อซากุระเมืองหนาว) กุหลาบพันปีและมอสส์ที่ขึ้นปกคลุมตามลำต้นของต้นไม้ในป่าดิบชื้น
นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว ดอยอินทนนท์ยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง เช่น พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งเป็นเจดีย์คู่ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ซึ่งมอบประสบการณ์การเดินป่าอันอุดมสมบูรณ์ และมีน้ำตกสวยงามน่าลงเล่นน้ำอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกวชิรธาร และ น้ำตกแม่กลาง ซึ่งมีน้ำไหลตลอดปี ทำให้ดอยอินทนนท์เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย พร้อมสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและความสงบเงียบไปในตัว
- ที่อยู่: ตำบล บ้านหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/kacKCHWG1s7kK33A9
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 05:30-18:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/DoiInthanonNationalPark
2. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

เขาค้อคือจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติ ตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดดเด่นด้วยทิวทัศน์แบบพาโนรามาของภูเขาที่สลับซับซ้อนและทะเลหมอกที่หนาแน่นในยามเช้าตรู่ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,200 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีราวกับเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทย จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่
นอกจากความสวยงามของทะเลหมอกแล้ว เขาค้อยังเป็นสถานที่สำคัญของแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกอย่างเช่น พระตำหนักเขาค้อ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระราชวงศ์ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งมีสถาปัตยกรรมสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และทุ่งกังหันลมเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ทำให้เขาค้อสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและที่พักสไตล์โฮมสเตย์ให้เลือกมากมาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศอันเงียบสงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
- ที่อยู่: 67 ม.1 อุทยานแห่งชาติเขาค้อ ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67270
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/1wQW3ogduhkCJeEy9
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 08:00-16:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/KHAOKHONATIONALPARK
3. ผาหำหด จังหวัดชัยภูมิ

ผาหำหดคือจุดชมวิว ซึ่งมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์และมีความท้าทายสำหรับผู้มาเยือน โดยตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตร มีทิวทัศน์เปิดมุมมองแบบพาโนรามา 360 องศาให้คุณได้เห็นวิวของป่าเขาอันเขียวชอุ่มสลับซับซ้อนไปจนสุดลูกหูลูกตา ผาแห่งนี้โดดเด่นด้วยก้อนหินแกรนิตขนาดใหญ่ยื่นออกจากหน้าผา จนถูกขนานนามว่า “ผาหำหด” ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บภาพความประทับใจแบบไม่เหมือนใคร
นอกจากการเป็นจุดชมวิวอันน่าหวาดเสียวแล้ว ผาหำหดยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามไม่แพ้ภาคอื่น ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศได้ในช่วงเช้าของวัน สำหรับสายลุย หรือสายแคมป์ผู้รักการผจญภัยและชื่นชอบการถ่ายภาพ ผาหำหดถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดชัยภูมิที่พลาดไม่ได้
- ที่อยู่: ตำบล เจาทอง อำเภอ เทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ 36260
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/jgi8YnRCuaxidXdr5
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 08:00-16:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/SaithongOfficial
4. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

ภูสอยดาวเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายเดินป่าและผู้ที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัดคือพิษณุโลกและอุตรดิตถ์ โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันงดงามของป่าดิบเขตกึ่งเย็นและความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธรรมชาติ ลานสนบนภูสอยดาวตั้งอยู่ที่ความสูง 1,633 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นพื้นที่สำหรับกางเต็นท์และพักแรมที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในยามค่ำคืน
ความพิเศษของภูสอยดาวไม่ได้มีเพียงแค่การเป็นสถานที่ชมดาวที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย และการได้เห็นทิวทัศน์ของทะเลหมอกที่ปกคลุมหุบเขาในช่วงเช้าตรู่ นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไม้หายากและสัตว์ป่าที่ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่ากว่าร้อยละ 85 ของอุทยานฯ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางที่มองหาการผจญภัยและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ
- ที่อยู่: ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก 65170
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/JAt6WtYfRyNtWcdg9
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 08:00-16:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/phusoidao
5. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

ภูทับเบิกคือยอดภูเขาสูงสุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยความสูงถึง 1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวจัดและมีทะเลหมอกปกคลุมอย่างหนาแน่น จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ซึ่งต้องการสัมผัสกับบรรยากาศราวกับอยู่ในต่างประเทศ รวมถึงเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของแปลงปลูกกะหล่ำปลีขนาดใหญ่ลดหลั่นไปตามเชิงเขา ซึ่งถือเป็นไฮไลต์สำคัญของภูทับเบิก
ภูทับเบิกยังมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น การพักค้างคืนในรูปแบบโฮมสเตย์และลานกางเต็นท์ เพื่อให้ได้สัมผัสกับความหนาวเย็นและชมทะเลหมอกยามเช้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเดินชมความงามของ ดอกไผ่ป่า มักผลิดอกบานสะพรั่งเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น วัดป่าภูทับเบิก และ จุดชมวิวกังหันลม เป็นต้น มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วนและน่าประทับใจ
- ที่อยู่: ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 67120
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/3uiuEd2jGS3ojMx99
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: ตลอด 24 ชั่วโมง
- เว็บไซต์: –
6. บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่

บ้านป่าบงเปียงคือหมู่บ้านชาวเขาบนยอดดอยสูงในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ แม้จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากดอยอินทนนท์ แต่กลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความงดงามของทัศนียภาพและนาขั้นบันไดคือหัวใจสำคัญของหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งมีภูมิประเทศภูเขาสูงชัน ชาวบ้านจึงต้องปรับพื้นที่ให้เป็นขั้นบันไดสำหรับปลูกข้าว ไล่ระดับไปตามแนวเขา ภาพนาข้าวเปลี่ยนสีตามฤดูกาล ตั้งแต่สีเขียวขจีในฤดูฝนไปจนถึงสีทองอร่ามช่วงเก็บเกี่ยว คือเสน่ห์อันโดดเด่น ทำให้บ้านป่าบงเปียงไม่เหมือนใคร
นอกจากทุ่งนาสุดตระการตา บ้านป่าบงเปียงยังมอบประสบการณ์น่าประทับใจหลากหลาย ทั้งวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบ้าน และทิวทัศน์ภูเขาสลับซับซ้อนงดงาม จึงกลายเป็นจุดหมายในฝันของนักถ่ายภาพและผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง เพื่อมาสัมผัสชีวิตช้า ๆ ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดของเชียงใหม่อีกด้วย
- ที่อยู่: บ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pGky6mrP27vb5PQ29
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: ตลอด 24 ชั่วโมง
- เว็บไซต์: –
7. เขาสก เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เขาสกตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ได้เป็นชื่อภูเขา แต่เป็นชื่อของอุทยานเขาสกครอบคลุมพื้นที่ป่าดิบชื้นอันเก่าแก่และอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายในอุทยานจะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ ส่วนของที่ทำการอุทยาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าชมป่าดิบชื้น น้ำตก และพืชพรรณนานาชนิดได้ และส่วนที่สองคือ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือมักรู้จักกันในชื่อ เขื่อนรัชชประภา มีทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาหินปูนโผล่พ้นน้ำขึ้นมาคล้ายกับกุ้ยหลินในประเทศจีน
เขื่อนรัชชประภามีระดับความสูงเฉลี่ยประมาณ 200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่มีจุดสูงสุดในอุทยานถึง 961 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมอบทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ในอ่างเก็บน้ำ นอกจากความงดงามของทิวทัศน์แล้ว เขาสกยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิด และมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้เลือกมากมาย เช่น การนั่งเรือชมวิว การพายเรือคายัค และการพักค้างคืนในแพกลางน้ำ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและครบถ้วน
- ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาสก ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84230
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/u2kvPRh4v5RwVDv47
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 07:00-18:00 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Khaosok
8. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผืนป่าทางตะวันตก ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์และมีเอกลักษณ์โดดเด่นทางธรณีวิทยา เนื่องจากเต็มไปด้วยภูเขาหินปูนและถ้ำหินปูนน้อยใหญ่ ทำให้อุทยานแห่งนี้มอบทัศนียภาพของภูเขาหินปูนสลับซับซ้อนได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากความงดงามของทิวเขาแล้ว ภายในอุทยานยังมีลำธารใสสะอาดและน้ำตกหลายแห่ง เช่น น้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก
นอกจากความงามของภูมิประเทศ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิยังเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติให้เลือกมากมาย ซึ่งระหว่างทางจะได้พบกับความหลากหลายของพืชพรรณและสัตว์ป่าหายาก รวมถึงเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรมผจญภัยอย่างการสำรวจถ้ำต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทำให้ทองผาภูมิเป็นจุดหมายปลายทาง ซึ่งครบถ้วนสำหรับผู้ต้องการพักผ่อนและการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์
- ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตู้ ปณ.18 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/HpPGUpPfUPNRGoZ68
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 08:00-18:00 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Thongphaphum
9. ภูลังกา จังหวัดพะเยา/น่าน

ภูลังกาคือสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของจังหวัดพะเยาและน่าน โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันน่าทึ่งของทะเลหมอกที่หนาแน่นราวกับปุยเมฆที่ปกคลุมทั่วหุบเขาในยามเช้าตรู่ ยอดดอยมีความสูงถึง 1,720 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ ภูลังกายังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าดิบเขตกึ่งเย็นและพืชพรรณหายากนานาชนิด ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
นอกจากการชมทะเลหมอกและทิวเขา ภูลังกายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ภูลังกาฟาร์ม มีทุ่งดอกไม้ให้ได้ถ่ายภาพสวย ๆ และ ผาช้างน้อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวซึ่งงดงามไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีที่พักสไตล์โฮมสเตย์และรีสอร์ตตั้งอยู่ตามไหล่เขา ภูลังกาจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย อยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติท่ามกลางวิวทะเลหมอกยามเช้า
- ที่อยู่: ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา 56140
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/a5V3J5HmYvsZwoCb7
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 06:00-18:00 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/phachangnoilocal
10. เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี

เขาช้างเผือกคือภูเขาที่มีชื่อเสียงและเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินป่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรีที่ทอดยาวไปตามแนวชายแดนไทย-พม่า ยอดเขาช้างเผือกมีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดดเด่นด้วยเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายความสามารถ โดยเฉพาะช่วงสันคมมีดที่ต้องปีนป่ายไปตามแนวหน้าผาที่แคบและสูงชัน ซึ่งควรใช้ความระมัดระวังเเละมีสติตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางตามสันเขา
นอกจากความตื่นเต้นจากการปีนเขา ตลอดเส้นทางบนเขาช้างเผือกยังมอบความงดงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภายในอุทยานประกอบไปด้วยป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้นซึ่งยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ทำให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด การเดินทางสู่ยอดเขาจึงไม่ใช่แค่การพิชิตจุดสูงสุดเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและชมทิวทัศน์ของภูเขาที่สลับซับซ้อนไปจนถึงอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณได้อย่างงดงาม ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย
- ที่อยู่: ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/w5L8tLNKnnCL814f9
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 08:30-16:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Thongphaphum National Park
11. สันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี

สันหนอกวัวคือยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยความสูงถึง 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่มีอากาศที่เย็นสบายและบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี ชื่อ “สันหนอกวัว” มาจากลักษณะของยอดเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับหนอกของวัวนั่นเอง ที่นี่มอบทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขาที่สลับซับซ้อนและผืนป่าอันเขียวขจีที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์เอาไว้อย่างเต็มที่ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในดินแดนอันงดงามเหมือนในประเทศจีน
การเดินทางขึ้นสู่สันหนอกวัวเป็นการผจญภัยสุดท้าทายแต่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ซึ่งชื่นชอบการเดินป่า เพราะจะได้สัมผัสกับความหลากหลายของธรรมชาติ ทั้งป่าดิบชื้น ปกคลุมไปด้วยมอสส์และเฟิร์น รวมถึงป่าไผ่หนาขึ้นอยู่หนาแน่นตลอดเส้นทาง เมื่อไปถึงยอดเขาแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้พบกับจุดชมวิวอันสวยงามและเป็นมุมยอดนิยมสำหรับการถ่ายรูป สันหนอกวัวจึงเป็นอีกหนึ่งภูเขาสวยเหมาะสำหรับการชาร์จพลังจากธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
- ที่อยู่: ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pfZHtS2ceFPGmDxn6
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 09:00-16:00 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/KhaolaemNationalparkKanchanaburi
12. เขาหลวงสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

เขาหลวงสุโขทัยคือยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ด้วยความสูงถึง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ภูเขาแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสูงที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นต้นกำเนิดของลำธารสำคัญหลายสายสำคัญซึ่งหล่อเลี้ยงพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ ยังมีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าสนเขา ทำให้เป็นแหล่งรวมของพืชพรรณหลากหลายชนิด และมอบอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาหลวงสุโขทัยเป็นการผจญภัยที่ท้าทายแต่คุ้มค่าเมื่อไปถึง นักท่องเที่ยวจะได้เดินป่าศึกษาธรรมชาติและสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศอย่างใกล้ชิด ทั้งพืชพันธุ์หายากและสัตว์ป่าที่ยังคงอาศัยอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ เมื่อไปถึงยอดเขาแล้ว จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเก่าสุโขทัยและผืนป่าที่เขียวขจีได้อย่างงดงาม ทำให้เขาหลวงสุโขทัยเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและรักการเดินป่า
- ที่อยู่: ตำบลบ้านน้ำพุ อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย 64160
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/z8RcvYqwyqwhWvmS9
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: เปิดให้ขึ้น 08:00 น. และไม่อนุญาตให้ขึ้นเขาหลังเวลา 15:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/RamkhamhaengNationalPark
13. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

ภูชี้ฟ้าคือยอดภูเขาอันโดดเด่นที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของชายแดนไทย-ลาว ในจังหวัดเชียงราย จุดสูงสุดมีความสูงถึง 1,628 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและเป็นจุดชมวิวแสนสวยงามแห่งหนึ่งของภาคเหนือ เอกลักษณ์ของภูชี้ฟ้าคือยอดผาที่ยื่นออกไปคล้ายกับนิ้วชี้ขึ้นไปบนฟ้า จนเป็นกลายมาเป็นชื่อเรียกของยอดเขาแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวเพื่อชมความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของวัน พร้อมทะเลหมอกปกคลุมหนาแน่นทั่วหุบเขา
นอกจากความงดงามของแสงแรกยามเช้า ภูชี้ฟ้ายังมอบทัศนียภาพอันน่าประทับใจของแม่น้ำโขงคดเคี้ยวไปตามแนวพรมแดน รวมถึงทิวเขาในฝั่งประเทศลาวซึ่งสลับซับซ้อนกันอย่างลงตัว ภูเขาลูกนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าดิบเขตกึ่งเย็น ทำให้ภูชี้ฟ้าเป็นจุดพักผ่อนอย่างลงตัวพร้อมสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์สุดเขตสยาม
- ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ตำบลตับเต่า อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 57310
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/fZXzVH2WX7MCowHB6
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 04:30-18:00 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า
14. ภูชี้ดาว จังหวัดเชียงราย

ภูชี้ดาวคือยอดภูเขาที่ตั้งอยู่ในอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ด้วยความสูงประมาณ 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ความงดงามของทิวทัศน์ยามเช้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสวรรค์ของนักดูดาวในยามค่ำคืนอีกด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลจากตัวเมือง จึงมีมลภาวะทางแสงน้อยมาก ทำให้สามารถมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
นอกจากความโดดเด่นในด้านการชมดาวแล้ว ภูชี้ดาวยังมอบทัศนียภาพอันน่าประทับใจของภูเขาสลับซับซ้อนปนกับป่าไผ่ใบเขียวทั่วโดยรอบ รวมถึงมีลานกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ต้องการพักค้างคืนเพื่อสัมผัสกับความหนาวเย็นและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ภูชี้ดาวจึงเป็นจุดหมายปลายทางสุดสมบูรณ์แบบสำหรับคนชอบการถ่ายภาพดวงดาวและต้องการใช้เวลาอย่างสงบเงียบท่ามกลางธรรมชาติ
- ที่อยู่: ภูชี้ดาว เชียงราย ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 57310
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/QK8iFoWvnFAQZaNJ7
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: ตลอด 24 ชั่วโมง
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/p/องค์การบริหารส่วนตำบลปอ
15. อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนทอดตัวยาวสลับซับซ้อน และถ้ำหินปูนน้อยใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะถ้ำหลวงซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความยาวและความสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย บริเวณโดยรอบยังรายล้อมด้วยป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้นอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าศึกษาธรรมชาติและชมความงามของถ้ำหินปูน
อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด พร้อมเรียนรู้เรื่องราวทางธรณีวิทยาและระบบนิเวศของภูเขาหินปูน อากาศเย็นสบายและบรรยากาศสงบเงียบทำให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน เดินทางมาชมวิว หรือถ่ายภาพทิวทัศน์อันงดงามของดินแดนเหนือสุดของประเทศไทย
ก่อนเดินทางมาเที่ยวอย่าลืม เช็กวันเปิด-ปิดล่วงหน้า เพราะอุทยานฯ มักมีมาตรการปิดทำการในช่วงฤดูฝน (ปกติคือ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน) เมื่อเปิดแล้ว พื้นที่เข้าชมจะแบ่งเป็น ขุนน้ำนางนอน และ ถ้ำหลวง โดย โถง 1 ของถ้ำหลวงจะเข้าชมได้ฟรีตามปกติ ส่วน โถง 2 และ โถง 3 ต้องจองทัวร์และมีผู้เชี่ยวชาญนำทางเท่านั้น ส่วนพื้นที่สำคัญอย่าง “เนินนมสาว” ที่ทีมหมูป่าเคยติดอยู่ ยังคงเป็นพื้นที่ปิดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
- ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 57130
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/PXjpYPcd2XZKMi4V9
- เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 08:30-16:30 น.
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/p/อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง
เคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวภูเขาสวย ๆ ในไทย
• เตรียมแผนการเดินทาง
การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวภูเขาควรวางแผนล่วงหน้า เนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางโค้งคดเคี้ยว แนะนำให้ใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถยนต์เช่าที่มีสมรรถนะดี ตรวจสอบเส้นทางผ่าน GPS และเตรียมน้ำมันให้เพียงพอ รวมถึงตรวจสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง สำหรับจุดที่ต้องเดินป่าหรือปีนป่าย ควรเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมและศึกษาเส้นทางให้ดี
• เตรียมเรื่องที่พัก
ควรจองที่พักใกล้จุดท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะที่พักในพื้นที่ภูเขามีจำนวนจำกัดและอาจเต็มเร็ว นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ สำหรับใครที่อยากชมพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้า แนะนำให้พักค้างคืนใกล้สถานที่ท่องเที่ยวจะดีกว่า และอย่าลืมตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกของที่พัก เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำประปา และอินเทอร์เน็ตเพื่อความราบรื่นในการพักอาศัย
ภูเขาที่สวยที่สุดในไทยมีให้เลือกมากมายทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่ยอดดอยในภาคเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น ไปจนถึงภูเขาในภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์แตกต่าง แต่ละแห่งมีความงดงามและกิจกรรมที่น่าสนใจไม่เหมือนกัน บทความนี้จึงได้รวบรวมภูเขาในไทยน่าเที่ยว สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวภูเขา สถานที่เหล่านี้จะให้ประสบการณ์ที่ดีและผ่อนคลาย พร้อมกับได้สัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์และอากาศที่สดชื่นหากคุณกำลังวางแผนการเดินทางไปเที่ยวภูเขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ การเช่ารถจาก Drive Car Rental จะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยบริการเช่ารถกรุงเทพและจังหวัดอื่น ๆ ครอบคลุมทุกสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อความพร้อมสำหรับทุกการเดินทาง