เครื่องยนต์ร้อน

“ขับรถอยู่ดี ๆ เครื่องยนต์ก็ร้อนจัด มีควันพวยพุ่งออกจากฝากระโปรงหน้า ต้องทำอย่างไร?” คือ คำถามที่เรามักได้ยินเป็นประจำ โดยเฉพาะกับเจ้าของรถมือสอง หรือรถเก่าเก็บตกทอดมาเป็นสิบปี หากคุณเองก็เคยประสบปัญหาเครื่องยนต์ร้อนเช่นนี้ Drive Car Rental บริษัทตัวแทนเช่ารถภูเก็ตมืออาชีพรวบรวมวิธีแก้เครื่องยนต์ร้อนมาให้คุณแล้ว ไปดูกัน!

วิธีสังเกตเครื่องยนต์ร้อน

จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องยนต์ร้อน

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า รถที่ประสบปัญหาเครื่องยนต์ร้อนไม่ได้มีควันพวยพุ่งออกมาจากห้องเครื่องทุกคัน เพราะอาการนั้นจะจัดอยู่ในกรณีที่อุณหภูมิสูงจนถึงขั้นวิกฤตแล้ว แต่สัญญาณเบื้องต้นที่จะทำให้คุณทราบว่ารถความร้อนขึ้น คือเข็มบนมาตรวัดความร้อนรถยนต์ หรือในบางรุ่นอาจใช้ตัววัดเป็นสัญญาณไฟ ซึ่งจะแสดงผลดังนี้

  • ในกรณีที่รถของคุณใช้มาตรวัดความร้อน: หากเครื่องยนต์ร้อน เข็มบนมาตรวัดจะเอนมาทางฝั่งอุณหภูมิสูง (H) เกินครึ่งหนึ่งของมาตรวัด
  • ในกรณีที่รถของคุณใช้สัญญาณไฟ: หากเครื่องยนต์ร้อน จะขึ้นเตือนเป็นสัญญาณไฟสีแดง

ทั้งนี้ อุณหภูมิปกติของเครื่องยนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 85 – 92 องศาเซลเซียส (อาจแตกต่างกันตามรถแต่ละรุ่น)

สาเหตุของอาการเครื่องยนต์ร้อน

 สาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อน

เครื่องยนต์ร้อน ห้องเครื่องร้อน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่โดยทั่วไปจะเกิดจากความผิดปกติภายในระบบระบายความร้อนของรถยนต์ ดังจะอธิบายต่อไปนี้

1. ระดับน้ำในหม้อน้ำลดลง

คุณอาจลืมเติมน้ำในหม้อน้ำให้ได้ระดับ หรือเติมแล้ว แต่ฝาหม้อน้ำเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำซึมออกได้ หรือมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ระดับน้ำในหม้อน้ำลดลง เช่น วาล์วน้ำเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำไม่ไหลเวียนในระบบตามปกติ เป็นต้น

2. มีคราบตะกรันอยู่ในหม้อน้ำ

หม้อน้ำที่ถูกใช้งานมานาน ย่อมมีคราบตะกรันจากน้ำเกาะติดอยู่ภายใน หรือมีส่วนที่ขึ้นสนิม ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ห้องเครื่องร้อนขึ้นเช่นกัน

3. หม้อน้ำชำรุด มีรอยรั่ว

หลาย ๆ ครั้งที่คุณขับรถผ่านถนนลูกรัง เศษหินเศษกรวดอยู่อยู่บนถนนจำนวนมาก อาจกระเด็นมาโดนหม้อน้ำ จนทำให้หม้อน้ำชำรุด และน้ำในหม้อน้ำก็ไหลออกจากรอยรั่วนั้น

4. พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน

พัดลมระบายความร้อนมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบระบายความร้อน หากตัวพัดลมไม่ทำงาน ความร้อนก็จะระอุอยู่ในเครื่องยนต์

5. ปั๊มน้ำชำรุด หรือสายพานขาด

สุดท้าย คือความผิดปกติที่เกิดจากปั๊มน้ำและสายพาน ซึ่งมีร่องรอยการชำรุด ทำให้ระบบระบายความร้อนโดยรวมทำงานได้ไม่เต็มที่ และเกิดความร้อนสะสมในที่สุด

วิธีแก้เครื่องยนต์ร้อน

วิธีแก้เครื่องยนต์ร้อนเบื้องต้น

แน่นอนว่าปัญหาห้องเครื่องร้อนขึ้นกะทันหัน คือสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากพบ แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาวิธีแก้ไข ซึ่งวิธีแก้เครื่องยนต์ร้อนเบื้องต้น มีดังนี้

1. จอดรถในที่ปลอดภัย และรีบดับเครื่องยนต์

ทันทีที่รู้ว่ารถความร้อนขึ้น อย่าพยายามขับต่อโดยเด็ดขาด ให้รีบจอดรถในที่ปลอดภัย แล้วดับเครื่องยนต์ทันที 

2. เปิดฝากระโปรงหน้ารถเพื่อระบายความร้อน

หากเครื่องยนต์ร้อนขึ้น แต่ไม่ถึงกับมีควันพวยพุ่ง ให้คุณเปิดฝากระโปรงรถทันทีเพื่อระบายความร้อนออกจากห้องเครื่อง แต่หากเครื่องยนต์ร้อนจัดจนเริ่มมีควันพุ่งออกมา ให้รอจนกระทั่งความร้อนลดลง ควันสงบลง แล้วจึงเปิดฝากระโปรงรถ

3. รอจนเครื่องยนต์เย็นลง แล้วเติมน้ำลงในหม้อน้ำ

รอจนกระทั่งเครื่องยนต์ค่อย ๆ เย็นลง สังเกตได้จากไอน้ำที่ค่อย ๆ น้อยลง หรือสังเกตจากเข็มบนมาตรวัดความร้อน (อาจจอดทิ้งไว้สัก 20 – 30 นาที) จากนั้นให้เปิดฝาหม้อน้ำ แล้วค่อย ๆ เติมน้ำหล่อเย็นลงไปจนได้ระดับ 

4. ค่อย ๆ สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วขับไปเช็กที่ศูนย์บริการ

หลังจากเติมน้ำหล่อเย็นแล้วปิดฝาหม้อน้ำ แนะนำให้รออีกสัก 5 นาที แล้วจึงสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง ก่อนขับไปเช็กอาการให้แน่ชัดที่ศูนย์บริการ

ไม่อยากประสบปัญหาเครื่องยนต์ร้อนอีก ควรป้องกันอย่างไร

  • หมั่นตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ และพยายามเติมให้ได้ระดับตลอดเวลา
  • ตรวจสอบสภาพของหม้อน้ำ ว่ามีรอยรั่ว หรือคราบตะกรันหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบฝาหม้อน้ำ ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากแค่ไหน
  • ลองสังเกตการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ ว่าหลังจากสตาร์ทรถแล้ว พัดลมหมุนตามปกติหรือไม่
  • เข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด

ตามหาบริการเช่ารถภูเก็ต นึกถึง Drive Car Rental

ปัญหาเครื่องยนต์ร้อน ห้องเครื่องร้อน มักเกิดขึ้นกับรถยนต์เก่าหรือรถยนต์มือสอง หากคุณจำเป็นต้องใช้บริการเช่ารถ และกังวลกับการใช้งานรถเก่า เราขอแนะนำ Drive Car Rental ผู้ให้บริการเช่ารถภูเก็ตรายใหญ่ ที่มีสาขาทั่วประเทศไทย การันตีรถใหม่อายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปี ที่ผ่านการตรวจสภาพรถอย่างละเอียดทุกจุด พร้อมบริการกรณีเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง สนใจ จองเลย!

ขอบคุณข้อมูลจาก: SMILE INSURE, tqm, Asia Direct